วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

การเรียนรู้ครั้งที่ 16 วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม เวลา 08.30 น. - 12.30 น.

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ยินดีต้อนรับ เคลื่อนไหว



บทบาทของครู

- ตำแหน่งการนั่งของเด็กไม่ควรให้นั่งติดหน้าต่างหรือประตู
- ให้เด็กนั่งแถวหน้าสุดใกล้โต๊ะครู
- จัดให้เด็กนั่งติดกับนักเรียนที่ไม่ค่อยเล่น ไม่ค่อยคุยในระหว่างเรียน
- ให้เด็กมีกิจกรรม เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง

การส่งเสริมทักษะต่างๆของเด็กพิเศษ

1ทักษะทางสังคม
ตำแหน่งการนั่งของเด็กไม่ควรให้นั่งติดหน้าต่างหรือประตู
ให้เด็กนั่งแถวหน้าสุดใกล้โต๊ะครู
จัดให้เด็กนั่งติดกับนักเรียนที่ไม่ค่อยเล่น ไม่ค่อยคุยในระหว่างเรียน
ให้เด็กมีกิจกรรม เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง

การกระตุ้นการเลียนแบบและการเอาอย่าง

สังเกตเด็กเป็นระบบ 
- เรียนรู้โดยการเลียนแบบเพื่อน ทำท่าทางตาม


ครูปฏิบัติอย่างไรขณะเด็กเล่น

- ครูปฏิบัติพยายามสบตา  ยิ้มให้  พูดกับเด็กเสมอ  ไม่ควรชมผลงานหรือชมเกินเหตุ  ควรชมที่การกระทำ จากการพยามยามตั้งใจทำ และชมด้วยเรื่องอะไร
- การเล่นไม่ควรเทกระจาด

การให้แรงเสริมทางสังคมในบริบทที่เด็กเล่น

- ครูพูดชักชวนด้วยการ พูดนำของครู

ตัวอย่างการชวนเด็กเข้าไปเล่นกับเพื่อน ^^

*เมื่อเด็กอยากเล่นกับเพื่อนควรทำอย่างไร
1. สังเกตเด็กพิเศษก่อนและเดินเข้าไปหา
2. เรียกชื่อเด็ก สัมผัสตัวเด็กเบาๆ 
3. ถามเด็กว่า อยากเข้าไปเล่นกับเพื่อนไหมลูก? (ถ้าเด็กนิ่ง ให้ถามซ้ำบ่อยๆ  ถ้าเด็กไม่พูดเหมือนเดิมให้พาเข้าไปเล่นกับเพื่อน)
4. ก่อนที่จะพาเด็กเข้าไปเล่นนั้น ควรสร้างความน่าสนใจเพื่อให้เด็กคนอื่นอยากเล่นด้วย โดยการนำของเล่นให้เด็กถือเข้าไปด้วย
5. เมื่อเข้าไปแล้ว ให้พูดกับเด็กคนอื่น เช่น น้อง...อยากเล่นด้วย มีของเล่นมาให้เล่นด้วยนะลูก เป็นต้น
6. เมื่อเด็กเล่นอยู่ ให้เล่นกับเด็กด้วยสักพักแล้วจึงออกมาได้    

ช่วยเด็กทุกคนให้รู้กฎเกณฑ์

 - ให้เด็กรู้กฎเกณฑ์  ไม่ควรให้สิทธิ์เด็กพิเศษมากกว่า 

2ทักษะภาษา

การออกเสียงผิด พูดไม่ชัด

- การพูดตกหล่น   - การใช้เสียงหนึ่งแทนเสียงหนึ่ง   - การติดอ่าง

การปฏิบัติของครูและผู้ใหญ่ 
- ไม่สนใจการพูดซ้ำ
- ห้ามบอกเด็กให้พูดช้าๆ
- อย่าขัดจังหวะการพูดของเด็ก
- อย่าเปลี่ยนการใช้มือข้างถนัดของเด็ก
- ไม่เปรียบเทียบการพูดของเด็ก
- เด็กพูดไม่ชัดอาจเกี่ยวกับการได้ยิน

พฤติกรรมตอบสนองการแสดงออกทางภาษา


พฤติกรรมเริ่มการแสดงออกของเด็ก



การสอนตามเหตุการณ์  (Incidental Teaching)



1. สังเกตเด็กพิเศษก่อนและเดินเข้าไปหา
2. เรียกชื่อเด็ก สัมผัสตัวเด็กเบาๆ 
3. ถามเด็กว่า น้อง...กำลังทำอะไรอยู่ลูก (ถ้าเด็กนิ่ง ให้ถามซ้ำบ่อยๆ  ถ้าเด็กไม่พูดเหมือนเดิมให้จับมือเด็ก)
4. ก่อนที่จะช่วยเด็กทำอะไรนั้น สอนให้เด็กพูดตามแต่ละขั้นตอน เมื่อเสร็จแล้ว ให้ชมว่าน้อง...ทำ...เก่งมากเลย

3ทักษะการช่วยเหลือตนเอง

เรียนรู้การดำรงชีวิตโดยอิสระให้มากที่สุด
การกินอยู่
การเข้าห้องน้ำ
การแต่งตัว
กิจวัตรต่างๆในชีวิตประจำวัน




ช่วยเมื่อไหร่

- ไม่ช่วยเกินความจำเป็น  ให้เด็กทำสิ่งที่สามารถทำได้เองหากให้เวลาทำ

ทักษะการช่วยเหลือตนเอง (อายุ 2-3 ปี)


ทักษะการช่วยเหลือตนเอง (อายุ 3-4 ปี)


ทักษะการช่วยเหลือตนเอง (อายุ 4-5 ปี)


ทักษะการช่วยเหลือตนเอง (อายุ 5-6 ปี)


ลำดับขั้นในการช่วยเหลือตนเอง

- การย่อยงาน แบ่งเป็น ทำได้/ทำไม่ได้ เป็นการบอกลำดับขั้นตอน

ตัวอย่างการเข้าส้วม

เข้าไปในห้องส้วม
ดึงกางเกงลงมา
ก้าวขึ้นไปนั่งบนส้วม
ปัสสาวะหรืออุจจาระ
ใช้กระดาษชำระเช็ดก้น
ทิ้งกระดาษชำระในตะกร้า
กดชักโครกหรือตักน้ำราด
ดึงกางเกงขึ้น
ล้างมือ
เช็ดมือ
เดินออกจากห้องส้วม
* บอกแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียดเสมอ


สรุป

ครูต้องพยายามให้เด็กทำสิ่งต่างๆด้วยตนเอง
ย่อยงานแต่ละอย่างเป็นขั้นๆ
ความสำเร็จขั้นเล็กๆนำไปสู่ความสำเร็จทั้งมวล
ช่วยให้เด็กมีความมั่นใจในตนเอง
เด็กพึ่งตนเองได้ รู้สึกเป็นอิสระ

4ทักษะพื้นฐานทางการเรียน

การช่วยให้เด็กแต่ละคนเรียนรู้ได้ 
มีความรู้สึกดีต่อตนเอง
เด็กรู้สึกว่า “ฉันทำได้”
พัฒนาความกระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น
อยากสำรวจ อยากทดลอง

การทำตามคำสั่ง คำแนะนำ

เด็กได้ยินสิ่งที่ครูพูดชัดหรือไม่
เด็กเข้าใจคำศัพท์ที่ครูใช้หรือไม่
คำสั่งยุ่งยากซับซ้อนไปหรือไม่

การรับรู้ การเคลื่อนไหว

- ได้ยิน เห็น สัมผัส ลิ้มรส กลิ่น - ตอบสนองอย่างเหมาะสม

การควบคุมกล้ามเนื้อเล็ก


การกรอกน้ำ ตวงน้ำ
ต่อบล็อก
ศิลปะ
มุมบ้าน
- ช่วยเหลือตนเอง

ตัวอย่างอุปกรณ์สำหรับเด็กพิเศษ

ลูกปัดไม้ขนาดใหญ่

รูปต่อที่มีจำนวนชิ้นไม่มาก

ความจำ

จากการสนทนา
เมื่อเช้าหนูทานอะไร
แกงจืดที่เรากินใส่อะไรบ้าง
จำตัวละครในนิทาน
จำชื่อครู เพื่อน
เล่นเกมทายของที่หายไป

การวางแผนการเตรียมพื้นฐานทางวิชาการ

จัดกลุ่มเด็ก
เริ่มต้นเรียนรู้โดยใช้ช่วงเวลาสั้นๆ
ให้งานเด็กแต่ละคนอย่างชัดเจนว่าต้องทำที่ไหน
ติดชื่อเด็กตามที่นั่ง
ใช้อุปกรณ์ที่เด็กคุ้นเคย
ใช้อุปกรณ์ที่เด็กคุ้นเคย
บันทึกว่าเด็กชอบอะไรที่สุด
รู้ว่าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนงาน
มีอุปกรณ์ไว้สับเปลี่ยนใกล้มือ
เตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อนเด็กมาถึง
พูดในทางที่ดี
จัดกิจกรรมให้เด็กได้เคลื่อนไหว
ทำบทเรียนให้สนุก

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้


-  สามารถนำความรู้ไปใช้ในการเรียนการสอนสำหรับเด็กพิเศษได้ เพื่อให้ถูกต้องและเหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อเด็กและพัฒนาการของเด็ก

การประเมิน


ประเมินอาจารย์

-  อาจารย์เข้ามาสอนตรงเวลา  และอธิบายความรู้รายวิชาได้ชัดเจน  มีการยกตัวอย่างในแต่ละเรื่องทำให้ภาพและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น  ซึ่งอาจารย์จะนำความรู้เพิ่มเติมมาสอนอยู่เสมอ  ระหว่างเรียนอาจารย์คอยให้คำแนะนำของนักศึกษา  และรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษา มีกิจกรรมให้ทำอย่างสนุกสนาน

ประเมินเพื่อน

- เพื่อนๆตั้งใจฟังและให้ความร่วมมือในการเรียน  สนใจการเรียนและบันทึกเมื่ออาจารย์สอน อาจมีคุยกันบ้าง555แสดงความคิดเห็นและรับฟังกันและกัน   และสนุกสนานในการเรียนการสอนเพราะอาจารย์จะยกตัวอย่างการเรียนที่น่าสนใจและแปลกใหม่เสมอค่ะ :D

ประเมินตนเอง

- ตั้งใจฟัง  และจดบันทึกระหว่างเรียน ร่วมแสดงความคิดเห็นเมื่อครูมีคำถาม
ตอบคำถามได้ และเข้าใจเนื้อหาความรู้ได้ดีค่ะ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ยินดีต้อนรับ เคลื่อนไหว

การเรียนรู้ครั้งที่ 15 วันศุกร์ที่ 21 เมษายน เวลา 08.30 น. - 12.30 น.

ไม่มีการเรียนการสอน นักศึกษาฝึกอบรมลูกเสือสำรอง


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ลูกเสือ เคลื่อนไหว

การเรียนรู้ครั้งที่ 14 วันศุกร์ที่ 14 เมษายน เวลา 08.30 น. - 12.30 น.

ไม่มีการเรียนการสอน วันหยุดสงกรานต์


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สงกรานต์ เคลื่อนไหว

การเรียนรู้ครั้งที่ 13 วันศุกร์ที่ 7 เมษายน เวลา 08.30 น. - 12.30 น.

ไม่มีการเรียนการสอน


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ยินดีต้อนรับ เคลื่อนไหว

การเรียนรู้ครั้งที่ 12 วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม เวลา 08.30 น. - 12.30 น.

ไม่มีการเรียนการสอน




ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ยินดีต้อนรับ เคลื่อนไหว

การเรียนรู้ครั้งที่ 11 วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม เวลา 08.30 น. - 12.30 น.

 ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ยินดีต้อนรับ

ในต้นคาบอาจารย์ได้แจกกระดาษคำตอบเพื่อดูคะแนนสอบกลางภาค พร้อมเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง :D

คะแนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ผ่านก็ดีใจแล้วค่ะ555 ครั้งหน้าจะพยายามให้มากกว่านี้ค่ะ><

อาจารย์ให้นักศึกษาวาดภาพมือของตนเอง  ระหว่างการวาดให้เก็บมือข้างที่จะวาดไว้ ห้ามแอบดู!โดยเก็บรายละเอียดมือให้มากที่สุด เพื่อให้มองออกว่าเป็นมือของตนเอง

ตัวอย่างมือ

มืิอของหนูเองค่ะ555

หลังจากวาดเสร็จอาจารย์ให้นักศึกษาออกมานำภาพมือของเพื่อนไปคืนให้ถูกคน  ซึ่งเพื่อนแต่ละคนก็มีทั้งถูกและผิดด้วยค่ะ555

ตามหาจะเจอไหม555

มาเทียบให้ชัดๆ อิอิ

กิจกรรมนี้อาจารย์สะท้อนให้เห็นว่าพฤติกรรมเด็กเมื่อเห็นแล้วให้รีบจดบันทึกไว้ทันที ไม่ควรจำไว้เพราะจะทำให้ลืมและสับสนได้เสมอ

การส่งเสริมพัฒนาการและการปรับพฤติกรรม

เด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

เพื่อให้เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในชีวิตประจำวัน

ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุด 
เน้นการดูแลแบบองค์รวม (Holistic Approach)

การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการศึกษา
เพิ่มทักษะพื้นฐานด้านสังคม การสื่อสาร และทักษะทางความคิด 
เกิดผลดีในระยะยาว 
เน้นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้เด็กสามารถใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆแทนการฝึกแต่เพียงทักษะทางวิชาการ
แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program; IEP) 
โรงเรียนการศึกษาพิเศษเฉพาะทาง โรงเรียนเรียนร่วม ห้องเรียนคู่ขนาน  เด็กพิเศษ 1 คนใช้ แผน 1 แผนสำหรับ 
1 - 2 เทอม  
การฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม
การฝึกฝนทักษะในชีวิตประจำวัน (Activity of Daily Living Training)
การฝึกฝนทักษะสังคม (Social Skill Training)
 การสอนเรื่องราวทางสังคม (Social Story)
การบำบัดทางเลือก
การสื่อความหมายทดแทน (AAC)
ศิลปกรรมบำบัด (Art Therapy)
ดนตรีบำบัด (Music Therapy)
การฝังเข็ม (Acupuncture)  เป็นความเชื่อ
การบำบัดด้วยสัตว์ (Animal Therapy)  แมวจะใช้ได้ผลได้ดี  
การสื่อความหมายทดแทน (Augmentative and Alternative Communication ; AAC)  การใช้สื่ออุปกรณ์การช่วย   
การรับรู้ผ่านการมอง (Visual Strategies) 
โปรแกรมแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสาร (Picture Exchange Communication System; PECS)  
ครื่องโอภา (Communication Devices)   เป็นเครื่องที่กดปุ่มแล้วจะพูดออกมา 
โปรแกรมปราศรัย
Picture Exchange 

Communication System 

(PECS)


ใช้เยอะมากและใช้ได้ได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งไม่ตลอด ส่วนมากใช้กับเด็กออทิสติกเพราะเด็กไม่ค่อยพูด

ประกอบด้วยภาพ เมื่อจะใช้ประโยคใดให้นำภาพมาติดตรงตีนตุ๊กแก
เพื่อเป็นประโยคที่ต้องการสื่อสาร

ตัวอย่างPicture Exchange Communication System (PECS)  ที่อาจารย์นำมา555

เริ่มด้วยผู้ชายหล่อ โดยเฉพาะคนสุดท้ายค่ะ ><

ผู้หญิงสวยๆบ้าง สวยทุกคนเลยเพื่อนๆ555

กลุ่มนี้ก็สวยใสๆเลยค่ะ ><

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้


-  สามารถนำความรู้ใช้สังเกตลักษณะของเด็กได้ เพื่อให้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตรงกับความเหมาะสมและถูกต้องสำหรับเด็ก  สามารถนำไปเป็นแนวทางในการเลี้ยงดูเด็ก หรือนำความรู้แนะนำผู้อื่นต่อไปได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

การประเมินผล


ประเมินอาจารย์

-  อาจารย์เข้ามาสอนตรงเวลา  และอธิบายความรู้รายวิชาได้ชัดเจน  มีการยกตัวอย่างในแต่ละเรื่องทำให้ภาพและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น  ซึ่งอาจารย์จะนำความรู้เพิ่มเติมมาสอนอยู่เสมอ  ระหว่างเรียนอาจารย์คอยให้คำแนะนำของนักศึกษา  และรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษา มีกิจกรรมให้ทำอย่างสนุกสนาน

ประเมินตนเอง

- ตั้งใจฟังและทำกิจกรรมต่างๆ จดบันทึกระหว่างเรียน ร่วมแสดงความคิดเห็นเมื่อครูมีคำถาม
ตอบคำถามได้ และเข้าใจเนื้อหาความรู้ได้ดีค่ะ

ประเมินเพื่อน

- เพื่อนๆตั้งใจฟังและให้ความร่วมมือในการเรียน  สนใจการเรียนและบันทึกเมื่ออาจารย์สอน อาจมีคุยกันบ้าง555แสดงความคิดเห็นและรับฟังกันและกัน   และสนุกสนานในการเรียนการสอนเสมอค่ะ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ยินดีต้อนรับ

การเรียนรู้ครั้งที่ 10 วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม เวลา 08.30 น. - 12.30 น.

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ยินดีต้อนรับ เคลื่อนไหว

การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวม
สำหรับเด็กปฐมวัย



วันนี้ก่อนเรียนอาจารย์ให้สอบกลางภาคนอกตาราง ^^"

กระดาษคำตอบน่ารักมากค่ะ ><
รูปแบบการจัดการศึกษา

การศึกษาปกติทั่วไป (Regular Education)
การศึกษาพิเศษ (Special Education)
การศึกษาแบบเรียนร่วม  (Integrated Education หรือ Mainstreaming)
การศึกษาแบบเรียนรวม  (Inclusive Education)

การจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เด็กที่มีความต้องการพิเศษทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการพิเศษของเขา 

ความหมายของการศึกษาแบบเรียนร่วม (Integrated Education หรือ Mainstreaming)
- การจัดให้เด็กพิเศษเข้าไปในระบบการศึกษาทั่วไป
- มีกิจกรรมที่ให้เด็กพิเศษกับเด็กทั่วไปได้ทำร่วมกัน
- ใช้ช่วงเวลาช่วงใดช่วงหนึ่งในแต่ละวัน
- ครูปฐมวัยและครูการศึกษาพิเศษร่วมมือกัน

การเรียนร่วมบางเวลา (Integration)
- การจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติในบางเวลา
- เด็กพิเศษได้มีโอกาสแสดงออก และมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กปกติ 
- เป็นเด็กพิเศษที่มีความพิการระดับปานกลางถึงระดับมาก จึงไม่รียนร่วมเต็มเวลาได้
* ปกติจะเรียนอยู่ที่ห้องเรียนเด็กพิเศษ จะอยู่ในระดับประถม

การเรียนร่วมเต็มเวลา (Mainstreaming)
- การจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติตลอดเวลาที่เด็กอยู่ในโรงเรียน 
- เด็กพิเศษได้รับการจัดกระบวนการเรียนรู้และบริการนอกห้องเรียนเหมือนเด็กปกติ
- มีเป้าหมายเพื่อให้เด็กเข้าใจซึ่งกันและกัน ตอบสนองความต้องการซึ่งกันและกันและมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
- เด็กปกติจะยอมรับความหลากหลายของมนุษย์ เข้าใจว่าคนเราเกิดมาไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกอย่าง ท่ามกลางความ
แตกต่างกัน ต้องการความรัก ความสนใจ ความเอาใจใส่เหมือนกันทุกคน
*อยู่ร่วมกับเด็กปกติตลอดเวลาในการเรียน
*โรงเรียนจะจะสามารถเลือกเด็กที่จะเข้ามาเรียนได้


วีดีโอน้องช่อแก้วเล่นขิมตามเพลงที่กรรมการขอได้ น่ารักและเก่งมากๆ 


การศึกษาแบบเรียนรวม (Inclusive Education)
- เป็นการศึกษาสำหรับทุกคน จะรับเด็กเข้ามาเรียนรวมกันตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษา จัดให้มีบริการพิเศษตามความ
ต้องการของแต่ละบุคคล
*เด็กจะสามารถเลือกโรงเรียนเอง  โรงเรียนจะไม่สามารถเลือกเด็กได้  และเป็นการเปิดโอกาสมากกว่าการศึกษา
แบบเรียนร่วม 

Wilson , 2007  การจัดการเรียนการสอนที่ยึดปรัชญาของการอยู่รวมกัน (Inclusion) เป็นหลักการสอนที่ดี
เป็นการสอนที่ครูกับนักเรียนช่วยกันให้ทุกคนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน  กิจกรรมทุกชนิดที่จะนำไปสู่การสอนที่ดี
(Good Teaching)  ต้องคิดอย่างรอบคอบเพื่อหาหนทางให้นักเรียนทุกคนสามารถเรียนได้  และเป็นการ  ต้องคิด
กำหนดทางเลือกหลายๆ ทาง

ปรัชญาการเรียนรวม  การศึกษาสำหรับทุกคน  เด็กทุกคนควรได้รับการศึกษาเริ่มต้นตั้งแต่เด็ก 
เด็กพิเศษควรได้รับการส่งเสริมเฉพาะบุคคล
 "Inclusive Education is Education for all, 
It involves receiving people 

at the beginning of their education, 

with provision of additional services 

needed by each individual"

ความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม  
-  เป็นการจัดการศึกษาที่จัดให้เด็กพิเศษเข้ามาเรียนรวมกับเด็กปกติ โดยรับเข้ามาเรียนรวมกัน ตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษา
และจัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล  เด็กพิเศษทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาส
ในการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการพิเศษของเขา  เด็กเลือกโรงเรียนไม่ใช่โรงเรียนเลือกเด็ก  เด็กทุกคนที่ผู้ปกครอง
พาเข้ามาโรงเรียนทางโรงเรียนจะต้องรับเด็กไว้ และจะต้องจัดการศึกษาให้อย่างเหมาะสม และดำเนินการเรียนใน
ลักษณะ “รวมกัน” ที่ทุกคนต่างเป็นส่วนหนึ่ง ของสังคม ทุกคนยอมรับซึ่งกันและกัน 

ความสำคัญของการศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
ปฐมวัยเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดของการเรียนรู้  สามารถสอนได้เป็นการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษที่มีขีดจำกัด
น้อยที่สุด


อาจารย์ให้วาดภาพตามดอกบัวโดยเก็บรายละเอียดให้เหมือนมากที่สุด

ภาพดอกบัวของหนูเองค่ะ555 อาจไม่เหมือนบางอย่าง ระบายสีไม่ทันเวลาด้วยค่ะ555 แต่ก็ออกมาจนเสร็จ
บทบาทครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม
ครูไม่ควรวินิจฉัย   การวินิจฉัย หมายถึงการตัดสินใจโดยดูจากอาการหรือสัญญาณบางอย่างจากอาการที่แสดงออกมา
นั้นอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้
ครูไม่ควรตั้งชื่อหรือระบุประเภทเด็ก  เกิดผลเสียมากกว่าผลดีชื่อเปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กตลอดไป
เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ  *ผู้ปกครองจะอาจจะไม่พอใจกับการตั้งชื่อนั้นๆให้เด็ก และเกิดปัญหาตามมาได้
ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีบางอย่างผิดปกติ  
-  พ่อแม่ของเด็กพิเศษ มักทราบดีว่าลูกของเขามีปัญหา
- พ่อแม่ไม่ต้องการให้ครูมาย้ำในสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว
- ครูควรพูดในสิ่งที่เป็นความคาดหวังในด้านบวก แต่ต้องไม่ให้เกิดความหวังผิดๆ
- ครูควรรายงานผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรได้บ้าง เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้
ครูช่วยให้ผู้ปกครองมีความหวังและเห็นแนวทางที่จะช่วยให้เด็กพัฒนา
ครูควรทำอย่างไร
ครูสามารถชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของเด็กในเรื่องที่เกี่ยวกับพัฒนาการต่างๆ
ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรที่เหมาะสมในการประเมินผลหรือวินิจฉัย
สังเกตเด็กอย่างมีระบบ
จดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆ
- สังเกตเด็กในสถานการณ์ต่างๆ
การตรวจสอบ   
- จะทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร
- เป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและพ่อแม่เข้าใจเด็กดีขึ้น
- บอกได้ว่าเรื่องใดบ้างที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ
ข้อควรระวังในการปฏิบัติ
- ครูต้องไวต่อความรู้สึกและตัดสินใจล่วงหน้าได้
- ประเมินให้น้ำหนักความสำคัญของเรื่องต่างๆได้
- พฤติกรรมบางอย่างของเด็กไม่ได้ปรากฏให้เห็นเสมอไป
การบันทึกการสังเกต 
- การนับอย่างง่ายๆ   นับจำนวนครั้งของการเกิดพฤติกรรมกี่ครั้งในแต่ละวัน กี่ครั้งในแต่ละชั่วโมง  ระยะเวลาในการเกิดพฤติกรรม
- การบันทึกต่อเนื่อง   ให้รายละเอียดได้มาก เขียนทุกอย่างที่เด็กทำในช่วงเวลาหนึ่ง หรือช่วงกิจกรรมหนึ่งโดยไม่ต้องเข้าไปแนะนำช่วยเหลือ

ตัวอย่าง
น้อง____อายุ ____ขวบ 
บันทึกวันที่ ____
กิจกรรม____


การบันทึกเป็นคำๆ
น้อง ____ อายุ ____ ขวบ
บันทึกวันที่ ____
ช่วงเวลา ____
คำพูดเด็ก 

- การบันทึกไม่ต่อเนื่อง  บันทึกลงบัตรเล็กๆ  เป็นการบันทึกสั้นๆเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนในช่วงเวลาหนึ่ง
..______
อายุ ____ขวบ  
บันทึกวันที่ 26 มกราคม 2558
ช่วงเวลา กิจกรรมกลางแจ้ง

การเกิดพฤติกรรมบางอย่างมากเกินไป
- ควรเอาใจใส่ถึงระดับความมากน้อยของความบกพร่อง มากกว่าชนิดองความบกพร่อง
- พฤติกรรมไม่เหมาะสมที่พบได้ในเด็กทุกคน ไม่ควรจัดเป็นสิ่งผิดปกติ
การตัดสินใจ
- ครูต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง
- พฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้น ไปขัดขวางความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กหรือไม่

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้


-  สามารถนำความรู้ไปจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตรงกับความเหมาะสมและถูกต้องสำหรับเด็ก  และรู้วิธีการจัดการศึกษาแบบเรียนรวมและการศึกษาแบบเรียนร่วม เห็นถึงความแตกต่างของการศึกษาทั้ง 2 รูปแบบ

การประเมินผล


ประเมินอาจารย์

-  อาจารย์เข้ามาสอนตรงเวลา  และอธิบายความรู้รายวิชาได้ชัดเจน  มีการยกตัวอย่างในแต่ละเรื่องทำให้ภาพและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น  ซึ่งอาจารย์จะนำความรู้เพิ่มเติมมาสอนอยู่เสมอ  ระหว่างเรียนอาจารย์คอยให้คำแนะนำของนักศึกษา  และรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษา

ประเมินตนเอง

- ตั้งใจฟังและทำกิจกรรมต่างๆ จดบันทึกระหว่างเรียน ร่วมแสดงความคิดเห็นเมื่อครูมีคำถามตอบคำถามได้ และเข้าใจเนื้อหาความรู้ได้ดีค่ะ

ประเมินเพื่อน

- เพื่อนๆตั้งใจฟังและให้ความร่วมมือในการเรียน  สนใจการเรียนและบันทึกเมื่ออาจารย์สอนแสดงความคิดเห็นและรับฟังกันและกัน  

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เส้นเคลื่อนไหว