
เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
(Children
with
Behavioral
and
Emotional Disorders)
- มีความรู้สึกนึกคิดที่ผิดไปจากปกติ
- แสดงออกถึงความต้องการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
- มีความเชื่อมั่นในตนเองต่ำ
- เด็กที่มีการควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในสภาพปกตินานๆ ไม่ได้
- เด็กที่ควบคุมพฤติกรรมบางอย่างของตนเองไม่ได้
- ทำให้ไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเรียบร้อย
*ทางร่างกายและทางสภาพแวดล้อม
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
- ความวิตกกังวล (Anxiety) ซึ่งทำให้เด็กมีนิสัยขี้กลัว
- ภาวะซึมเศร้า (Depression) มีความเศร้าในระดับที่สูงเกินไป (เกิดจากตัวเด็ก)
- ปัญหาทางสุขภาพ
และขาดแรงกระตุ้นหรือความหวังในชีวิต
การจำแนกเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
ตามกลุ่มอาการ
ด้านความประพฤติ (Conduct Disorders)
- ทำร้ายผู้อื่น
ทำลายสิ่งของ ลักทรัพย์ ฉุนเฉียวง่าย
หุนหันพลันแล่น เชื่อถือไม่ได้
ชอบโกหก ชอบ
โทษผู้อื่น เอะอะและหยาบคาย หนีเรียน
รวมถึงหนีออกจากบ้าน ใช้สารเสพติดและหมกมุ่นใน
กิจกรรมทางเพศ
![]() |
ภาพเอเลี่ยนมนุษย์ต่างดาวมาฆ่าคน โดยน้องเพรส |
![]() |
ภาพมังกรพ่นไฟฆ่าชาวบ้านที่กำลังปลูกผัก โดยน้องเพรส |
![]() |
ภาพเจสันฆ่าคนจากน้ำขึ้นมาถือมีด รองเท้าเปื้อนเลือด โดยน้องเพรส |
![]() |
ภาพคนโดนฆ่ามีเลือดจากเล็บออกมา โดยน้องเพรส |
![]() |
ภาพหุ่นเด็กฆ่าคนเลือดเต็มพื้นพร้อมหัวเราะ5555 โดยน้องเพรส |
อาจารย์อ่านสมุดจดพฤติกรรมของน้องเพรส
- น้องเพรสเป็นเด็กอนุบาล 2 ที่มีอารมณ์รุนแรงและสมาธิสั้น เมื่ออยู่กับแม่จะเป็นเด็กดีเรียบร้อย อ้อนแม่เสมอ แต่เป็นเด็กที่เกลียดพ่อ อยู่ที่โรงเรียนจะชอบแกล้งเพื่อน และทำลายข้าวของภายในโรงเรียน ถ้าไม่พอใจอาจารย์หรือเมื่อใครทำสิ่งใดก็จะทำร้ายและพูดจาหยาบคายใส่เสมอ เช่น ต่อยเพื่อน , ผลักเพื่อน , ด่าครู อาจมีทำร้ายครูบ้าง , ปีนออกระเบียงเรียกร้องความสนใจ , หนีไปตลาดที่โรงเรียน , ฉี่รดแก้วน้ำเพื่อน , ด่าเพื่อน ตบตีเพื่อน , ทำลายของเสียหาย , อยู่ไม่นิ่ง เมื่อไม่พอใจจะทำร้ายผู้ที่อยู่ใกล้และของที่อยู่ใกล้ เป็นต้น แต่ในบางวันน้องเพรสก็จะช่วยครูยกโต๊ะเก้าอี้ด้วย สามารถควบคุมน้องเพรสได้โดยการใช้เสียงดัง ฟังชัด และหนักแน่น เพื่อให้เด็กรู้สึกกลัวและหยุดทำสิ่งนั้น ไม่ควรพูดจาอ่อนโยนจนเกินไปเพราะจะทำให้เด็กยิ่งไม่สนใจและทำสิ่งที่ไม่ดีมากขึ้นได้
ด้านความตั้งใจและสมาธิ (Attention
and Concentration)
- จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งในระยะสั้น
(Short attention
span) อาจไม่เกิน 20 วินาที
- ถูกสิ่งต่างๆ
รอบตัวดึงความสนใจได้ตลอดเวลา
- งัวเงีย
ไม่แสดงความสนใจใดๆ รวมถึงมีท่าทางเหมือนไม่ฟังสิ่งที่ผู้อื่นพูด
สมาธิสั้น (Attention Deficit)
- มีลักษณะกระวนกระวาย
ไม่สามารถนั่งนิ่งๆ ได้ หยุกหยิกไปมา
- พูดคุยตลอดเวลา
มักรบกวนหรือเรียกร้องความสนใจจากผู้อื่น
- มีทักษะการจัดการในระดับต่ำ
การถอนตัวหรือล้มเลิก (Withdrawal)
- หลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
และมักรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น
- เฉื่อยชา
และมีลักษณะคล้ายเหนื่อยตลอดเวลา
- ขาดความมั่นใจ ขี้อาย
ขี้กลัว ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก
ความผิดปกติในการทำงานของร่างกาย(Function Disorder)
- ความผิดปกติเกี่ยวกับพฤติกรรมการกิน
(Eating Disorder)
- การอาเจียนโดยสมัครใจ (Voluntary
Regurgitation) เช่น การอาเจียนเพื่อให้ลืมสิ่งที่ทำ
พลาดไว้ และสนใจการอาเจียนแทน
- การปฏิเสธที่จะรับประทาน
- รับประทานสิ่งที่รับประทานไม่ได้
- โรคอ้วน (Obesity)
- ความผิดปกติของการขับถ่ายทั้งอุจจาระและปัสสาวะ
(Elimination Disorder)
ภาวะความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ระดับรุนแรง (เด็กโต)
- ขาดเหตุผลในการคิด
- อาการหลงผิด (Delusion)
- อาการประสาทหลอน (Hallucination)
- พฤติกรรมการทำร้ายตัวเอง
สาเหตุ - ปัจจัยทางชีวภาพ (Biology)
- ปัจจัยทางจิตสังคม (Psychosocial)
ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเด็ก
- ไม่สามารถเรียนหนังสือได้เช่นเด็กปกติ
- รักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือกับครูไม่ได้
- มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน
- มีความคับข้องใจ มีความเก็บกดอารมณ์
- แสดงอาการทางร่างกาย เช่น ปวดศีรษะ ปวดตามส่วนต่าง ๆ
ของร่างกาย
- มีความหวาดกลัว
เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรม
ซึ่งจัดว่ามีความรุนแรงมาก
- เด็กสมาธิสั้น (Children with
Attention Deficit and Hyperactivity Disorders)
- เด็กออทิสติก (Autistic) หรือ ออทิสซึ่ม (Autisum)
เด็กสมาธิสั้น (Children
with Attention Deficit Hyperactivity Disorders)
ADHD เป็นภาวะผิดปกติทางจิตเวช มีลักษณะเด่นอยู่ 3 ประการ คือ
- Inattentiveness (ขาดสมาธิ,สมาธิสั้น)
ทำอะไรได้ไม่นาน วอกแวก
ไม่มีสมาธิ
ไม่สามารถจดจ่อกับงานที่กำลังทำได้นานเพียงพอ
มักใจลอยหรือเหม่อลอยง่าย
เด็กเล็กๆจะเล่นอะไรได้ไม่นาน
เปลี่ยนของเล่นไปเรื่อยๆ
เด็กโตมักทำงานไม่เสร็จตามที่สั่ง
ทำงานตกหล่น ไม่ครบ ไม่ละเอียด
- Hyperactivity
(อยู่ไม่นิ่ง)
ซุกซนไม่ยอมอยู่นิ่ง
ซนมาก
เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
เหลียวซ้ายแลขวา
อยู่ไม่สุข ปีนป่าย
นั่งไม่ติดที่
ชอบคุยส่งเสียงดังรบกวนคนรอบข้าง
- Impulsiveness
(หุนหันพันแล่น ไม่รู้กาลเทศะ)
ยับยั้งตัวเองไม่ค่อยได้
มักทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด วู่วาม
ขาดความยับยั้งชั่งใจ
ไม่อดทนต่อการรอคอย
หรือกฎระเบียบ เช่น การเข้าแถว
ไม่อยู่ในกติกา
ทำอะไรค่อนข้างรุนแรง
ไม่รอคอยให้คนอื่นพูดจบก่อน
ชอบมาสอดแทรกเวลาคนอื่นคุยกัน
*ต้องมีครบทุก 3 ประการ ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ถือว่าเป็นเด็กสมาธิสั้น
สาเหตุ
-ความผิดปกติของสารเคมีบางชนิดในสมอง เช่น โดปามีน (dopamine) นอร์อิพิเนฟริน (norepinephrine)
ความผิดปกติในการทำงานของวงจรที่ควบคุมสมาธิ
และการตื่นตัว อยู่ที่สมองส่วนหน้า (frontal cortex)
พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสมาธิสั้น
- สมาธิสั้น ไม่ได้เกิดจากความผิดของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกผิดวิธี ตามใจมากเกินไป
หรือปล่อยปละละเล
จนเกินไป และไม่ใช่ความผิดของเด็กที่ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ แต่ปัญหาอยู่ที่การทำงานของสมองที่ควบคุม
รื่องสมาธิของเด็ก *เกิดจากตัวเด็กเสมอ
ยารักษาโรคสมาธิสั้นที่มีใช้ในประเทศไทย มี 2 กลุ่ม
1. Methylphenidate ยี่ห้อ Ritalin ใช้รักษาเยอะ
2. Atomoxetine ยี่ห้อ Strattera
*ควรใช้ทานตามที่หมอแนะนำ
*ยาจะออกฤทธิ์ไปกระตุ้นที่สมองเด็กให้มีสมาธิมากขึ้น
ความแตกต่าง
- อยู่ไม่สุข (Hyperactivity ) เป็นอาการอยู่ไม่นิ่งอย่างเดียวเท่านั้น
- สมาธิสั้น (Attention Deficit )
ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
- อุจจาระ
ปัสสาวะรดเสื้อผ้า หรือที่นอน
- ยังติดขวดนม หรือตุ๊กตา
และของใช้ในวัยทารก
- ดูดนิ้ว กัดเล็บ
- หงอยเหงาเศร้าซึม
การหนีสังคม
- เรียกร้องความสนใจ
- อารมณ์หวั่นไหวง่ายต่อสิ่งเร้า
- ขี้อิจฉาริษยา ก้าวร้าว
- ฝันกลางวัน,พูดเพ้อเจ้อ
9. เด็กพิการซ้อน (Children
with
Multiple Handicaps)
- เด็กที่มีความบกพร่องที่มากกว่าหนึ่งอย่าง
เป็นเหตุให้เกิดปัญหาขัดข้องในการเรียนรู้อย่างมาก
- เด็กปัญญาอ่อนที่สูญเสียการได้ยิน
- เด็กปัญญาอ่อนที่ตาบอด
- เด็กที่ทั้งหูหนวกและตาบอด
![]() |
ฝึกให้เด็กมีสมาธิ โดยการเขียนหนังสือ |
![]() |
การรักษาทางกิจกรรมบำบัดเด็กสมาธิสั้น |
![]() |
ฝึกให้เคลื่อนไหวได้ช้าลงและการทรงตัว |
![]() |
กิจกรรมผ่อนคลาย |
![]() |
เพิ่มทักษะการรับรู้ทางสายตา |
![]() |
ฝึกการแยกภาพซ้อน |
![]() |
การรับรู้ตำแหร่งของร่างกายและสิ่งต่างๆรอบตัว |
![]() |
การรับรู้ด้านมิติสัมพันธ์ |
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- สามารถนำความรู้ไปใช้สังเกตลักษณะของเด็กได้ เพื่อให้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตรงกับความเหมาะสมและถูกต้องสำหรับเด็ก สามารถนำไปเป็นแนวทางในการเลี้ยงดูเด็ก หรือนำความรู้แนะนำผู้อื่นต่อไปได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
การประเมินผล
ประเมินอาจารย์
- อาจารย์เข้ามาสอนตรงเวลา และอธิบายความรู้รายวิชาได้ชัดเจน มีการยกตัวอย่างในแต่ละ
เรื่องทำให้ภาพและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งอาจารย์จะนำความรู้เพิ่มเติมมาสอนอยู่เสมอ ระหว่าง
เรียนอาจารย์คอยให้คำแนะนำของนักศึกษา และรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษา
เรื่องทำให้ภาพและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งอาจารย์จะนำความรู้เพิ่มเติมมาสอนอยู่เสมอ ระหว่าง
เรียนอาจารย์คอยให้คำแนะนำของนักศึกษา และรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษา
ประเมินตนเอง
- ตั้งใจฟังและทำกิจกรรมต่างๆ จดบันทึกระหว่างเรียน ร่วมแสดงความคิดเห็นเมื่อครูมีคำถาม
ตอบคำถามได้ และเข้าใจเนื้อหาความรู้ได้ดีค่ะ
ตอบคำถามได้ และเข้าใจเนื้อหาความรู้ได้ดีค่ะ
ประเมินเพื่อน
- เพื่อนๆตั้งใจฟังและให้ความร่วมมือในการเรียน สนใจการเรียนและบันทึกเมื่ออาจารย์สอน อาจมีคุยกัน
บ้างเพราะเป็นช่วงแรกๆค่ะ ออกมาเป็นตัวอย่างได้ชัดเจน สมบทบาท555 แสดงความคิดเห็นและ
รับฟังกันและกัน มีความสนุกสนานในการเรียนการสอน :D

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น