ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา
(Children
with Speech and Language Disorders)
เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูด
- เด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการพูดผิดปกติ
ในด้านความชัดเจนในการปรับปรุงแต่งระดับและคุณภาพของเสียง
จังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด
1. ความบกพร่องในด้านการปรุงเสียง (ออกเสียง)
(Articulator
Disorders)
- เสียงบางส่วนของคำขาดหายไป
"ความ" เป็น "คาม"
- ออกเสียงของตัวอื่นแทนตัวที่ถูกต้อง
"กิน" "จิน"
- เพิ่มเสียงที่ไม่ใช่เสียงที่ถูกต้องลงไปด้วย
"หกล้ม" เป็น "หก-กะ-ล้ม"
- เสียงเพี้ยนหรือแปล่ง
"แล้ว" เป็น "แล่ว"
2. ความบกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด (speech
Flow Disorders)
- พูดไม่ถูกตามลำดับขั้นตอน
ไม่เป็นไปตามโครงสร้างของภาษา
- การเว้นวรรคตอนไม่ถูกต้อง
- อัตราการพูดเร็วหรือช้าเกินไป
- จังหวะของเสียงพูดผิดปกติ
- เสียงพูดขาดความต่อเนื่อง
3. ความบกพร่องของเสียงพูด (Voice
Disorders)
- ความบกพร่องของระดับเสียง
- เสียงดังหรือค่อยเกินไป
- คุณภาพของเสียงไม่ดี
ความบกพร่องทางภาษา การขาดความสามารถที่จะเข้าใจความหมายของคำพูด และหรือไม่สามารถแสดงความคิด
ออกมาเป็นถ้อยคำได้
1. การพัฒนาการทางภาษาช้ากว่าวัย (Delayed
Language)
- มีความยากลำบากในการใช้ภาษา
- มีความผิดปกติของไวยากรณ์และโครงสร้างของประโยค
- ไม่สามารถสร้างประโยคได้
- มีความบกพร่องทางเชาว์ปัญญา
อารมณ์ สมองผิดปกติ
- ภาษาที่ใช้เป็นภาษาห้วน ๆ
2. ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง
โดยทั่วไปเรียกว่า
Dysphasia หรือ aphasia
- อ่านไม่ออก (alexia)
- เขียนไม่ได้ (agraphia )
- สะกดคำไม่ได้
- ใช้ภาษาสับสนยุ่งเหยิง
- จำคำหรือประโยคไม่ได้
- ไม่เข้าใจคำสั่ง ( สมองไม่สามารถประมวลได้ )
- พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของไม่ได้
* ไม่สามารถสอนได้ ทำอย่างไรก็พูดผิด
![]() |
สะกดคำผิด |
![]() |
ภาษาสับสน |
Gerstmann’s
syndrome
- ไม่รู้ชื่อนิ้ว (finger agnosia)
- ไม่รู้ซ้ายขวา (allochiria)
- คำนวณไม่ได้ (acalculia)
- เขียนไม่ได้ (agraphia)
- อ่านไม่ออก (alexia)
*มีทั้ง 5 อาการในเด็ก 1 คน
เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
(Children
with Physical and Health Impairments)
- เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน
- อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป
- เจ็บป่วยเรื้อรังรุนแรง
- มีปัญหาทางระบบประสาท
- มีความลำบากในการเคลื่อนไหว
โรคลมชัก (Epilepsy) เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมอง
มีกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติและมากเกินปล่อยออกมาจากเซลล์สมองพร้อมกัน
* ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ต้องกินยากันชักเป็นเวลา ปัจจุบันไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร อาจจะเกิดจากระบบ
ประสาทส่งกระแสประสาทผิดปกติ ทำให้เกิดการชัก
1.การชักในช่วงเวลาสั้น ๆ (Petit Mal)
- อาการเหม่อนิ่งเป็นเวลา 5-10วินาที
- มีการกระพริบตาหรืออาจมีเคี้ยวปาก
- เมื่อเกิดอาการชักเด็กจะหยุดชะงักในท่าก่อนชัก
- เด็กจะนั่งเฉย
หรือเด็กอาจจะตัวสั่นเล็กน้อย
* ไม่เป็นอันตราย เมื่อโตขึ้นจะหายไปเอง
2.การชักแบบรุนแรง (Grand Mal) เมื่อเกิดอาการชัก
เด็กจะส่งเสียง หมดความรู้สึก ล้มลง กล้ามเนื้อเกร็ง
เกิดขึ้นราว 2-5 นาที
จากนั้นจะหาย และนอนหลับไปชั่วครู่
* หลังเป็นจะรู้สึกเหนื่อยและหอบ หลับไปเอง ต้องกินยากันชักเป็นเวลา
3.อาการชักแบบ
Partial Complex
- มีอาการประมาณไม่เกิน 3 นาที
- เหม่อนิ่ง
- เหมือนรู้สึกตัวแต่ไม่รับรู้และไม่ตอบสนองต่อคำพูด
- หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
และต้องการนอนพัก
* เกิดกับเด็กหลายคน หลังเป็นจะรู้สึกเหนื่อยและหอบ หลับไปเอง ต้องกินยากันชักเป็นเวลา
4.อาการไม่รู้สึกตัว (Focal
Partial) เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น
เด็กไม่รู้สึกตัว อาจทำอะไรบางอย่าง
โดยที่ตัวเองไม่รู้ เช่น ร้องเพลง ดึงเสื้อผ้า เดินเหม่อลอย
แต่ไม่มีอาการชัก
5.ลมบ้าหมู (Grand Mal) เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ และหมดความรู้สึกในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็ง
หรือแขนขากระตุก กัดฟัน
กัดลิ้น
* เป็นอันตรายมาก ควรอยู่ห่างๆผู้ที่เป็นเพราะจะทำให้เกิดอันตรายได้ สามารถช่วยโดยการทำ CPR
![]() |
กล้ามเนื้อจะเกร็งทุกส่วน และมีแรงเยอะ |
การปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐาน ในกรณีเด็กมีอาการชัก
- จับเด็กนอนตะแคงขวาบนพื้นราบที่ไม่มีของแข็ง
- ไม่จับยึดตัวเด็กขณะชัก
- หาหมอนหรือสิ่งนุ่มๆรองศีรษะ
- ดูดน้ำลาย เสมหะ
เศษอาหารออกจากปาก เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
- จัดเสื้อผ้าเด็กให้หลวม
- ห้ามนำวัตถุใดๆใส่ในปาก
- ทำการช่วยหายใจโดยวิธีการเป่าปากหากเด็กหยุดหายใจ
ซี.พี. (Cerebral
Palsy) สมองพิการ ไม่สามารถสื่อการได้ เป็นที่สุขภาพร่างกายไม่ใช้สติปัญญา
- การเป็นอัมพาตเนื่องจากระบบประสาทสมองพิการ
หรือเป็นผลมาจากสมองที่กำลังพัฒนาถูกทำลายก่อนคลอด
ระหว่างคลอด หรือหลังคลอด
- การเคลื่อนไหว การพูด
พัฒนาการล่าช้า เด็กซีพี มีความบกพร่องที่เกิดจากส่วนต่าง ๆ ของสมองแตกต่างกัน
1.กลุ่มแข็งเกร็ง (spastic)
- spastic hemiplegia อัมพาตครึ่งซีก
- spastic diplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
- spastic paraplegiaอัมพาตครึ่งท่อนบน
- spastic quadriplegia อัมพาตทั้งตัว
2.กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง (athetoid ,
ataxia)
- athetoid อาการขยุกขยิกช้า ๆ
หรือเคลื่อนไหวเร็วๆที่เท้า แขน มือ หรือที่ใบหน้าของ เด็กบางรายอาจมีคอเอียง
ปากเบี้ยวร่วมด้วย
- ataxia มีความผิดปกติในการทรงตัวของร่างกาย
กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
3. กลุ่มอาการแบบผสม (Mixed) athetoid - ataxia
กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscular Distrophy)
- เกิดจากเส้นประสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้น ๆ เสื่อมสลายตัว
- เดินไม่ได้ นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่
- จะมีความพิการซ้อนในระยะหลัง
คือ ความจำแย่ลง สติปัญญาเสื่อม
โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ (Orthopedic) ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด เช่น เท้าปุก
(Club Foot) กระดูกข้อสะโพกเคลื่อน
อัมพาตครึ่งท่อนเนื่องจากกระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด
Spina Bifida)
- ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการด้วยโรคติดเชื้อ(Infection) เช่น วัณโรค
กระดูกหลังโกง กระดูกผุ เป็นแผลเรื้อรังมี
- หนอง เศษกระดูกผุ กระดูกหัก
ข้อเคลื่อน ข้ออักเสบ
![]() |
เท้าปุก |
![]() |
Spina Bifina กระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด ไม่รักษาอาจเป็นอัมพาตท่อนล่าง สามารถผ่าตัดให้หายได้ |
โปลิโอ (Poliomyelitis)
![]() |
เกิดจากเชื้อไวรัส Polio ส่วนใหญ่จะพบในน้ำ เด็กควรได้รับวัคซีนป้องกัน 5 ครั้ง |
- มีอาการกล้ามเนื้อลีบเล็ก
แต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา
- ยืนไม่ได้
หรืออาจปรับสภาพให้ยืนเดินได้ด้วยอุปกรณ์เสริม
โรคกระดูกอ่อน(Osteogenesis Imperfeta)
![]() |
เกิดจากกระดูกไม่แข็งแรง ควรได้รับวิตามิน D , แคลเซียม ลักษณะช่วงตัวจะสั้น ขายาวโก่ง |
โรคศีรษะโต (Hydrocephalus)
![]() |
เกิดจากน้ำในสมองไม่ไหลสู่ร่างกาย ไปคลั่งที่สมอง |
![]() |
เจาะน้ำออกแล้วแต่ยังไม่หาย |
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid
arthritis)
![]() |
เกิดจากเชื้อไวรัสรูมาตอยด์ ทำให้ข้อนิ้วมือผิดรูป เป็นได้ทั้งแขนและเท้า |
แขนขาด้วนแต่กำเนิด (Limb
Deficiency)
Lena Maria
![]() |
นักกีฬาว่ายน้ำระดับโลก |
![]() |
เขียนหนังสือได้ |
Nick Vujicic
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
- มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
- ท่าเดินคล้ายกรรไกร
- เดินขากะเผลก
หรืออึดอาดเชื่องช้า
- ไอเสียงแห้งบ่อย ๆ
- มักบ่นเจ็บหน้าอก
บ่นปวดหลัง
- หน้าแดงง่าย
มีสีเขียวจางบนแก้ม ริมฝีปากหรือปลายนิ้ว
- หกล้มบ่อย ๆ
- หิวและกระหายน้ำอย่างเกินกว่าเหตุ
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- สามารถนำความรู้เรื่องประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษไปใช้สังเกตลักษณะของเด็กได้ เพื่อให้
จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตรงกับความเหมาะสมและถูกต้องสำหรับเด็ก สามารถนำไปเป็นแนวทางใน
การเลี้ยงดูเด็ก หรือนำความรู้แนะนำผู้อื่นต่อไปได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตรงกับความเหมาะสมและถูกต้องสำหรับเด็ก สามารถนำไปเป็นแนวทางใน
การเลี้ยงดูเด็ก หรือนำความรู้แนะนำผู้อื่นต่อไปได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
การประเมินผล
ประเมินอาจารย์
- อาจารย์เข้ามาสอนตรงเวลา และอธิบายความรู้รายวิชาได้ชัดเจน มีการยกตัวอย่างในแต่ละเรื่องทำให้
ภาพและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งอาจารย์จะนำความรู้เพิ่มเติมมาสอนอยู่เสมอ ระหว่างเรียนอาจารย์คอย
ให้คำแนะนำของนักศึกษา และรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษา
ภาพและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งอาจารย์จะนำความรู้เพิ่มเติมมาสอนอยู่เสมอ ระหว่างเรียนอาจารย์คอย
ให้คำแนะนำของนักศึกษา และรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษา
ประเมินตนเอง
- ตั้งใจฟังและทำกิจกรรมต่างๆ จดบันทึกระหว่างเรียน ร่วมแสดงความคิดเห็นเมื่อครูมีคำถาม
ตอบคำถามได้ และเข้าใจเนื้อหาความรู้ได้ดีค่ะ
ตอบคำถามได้ และเข้าใจเนื้อหาความรู้ได้ดีค่ะ
ประเมินเพื่อน
- เพื่อนๆตั้งใจฟังและให้ความร่วมมือในการเรียน สนใจการเรียนและบันทึกเมื่ออาจารย์สอน อาจมีคุยกัน
บ้างเพราะเป็นช่วงแรกๆค่ะ ออกมาเป็นตัวอย่างได้ชัดเจน555แสดงความคิดเห็นและรับฟังกันและกัน
และสนุกสนานในการเรียนการสอน
- เพื่อนๆตั้งใจฟังและให้ความร่วมมือในการเรียน สนใจการเรียนและบันทึกเมื่ออาจารย์สอน อาจมีคุยกัน
บ้างเพราะเป็นช่วงแรกๆค่ะ ออกมาเป็นตัวอย่างได้ชัดเจน555แสดงความคิดเห็นและรับฟังกันและกัน
และสนุกสนานในการเรียนการสอน